วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2563

หลักการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ

เครื่องฟอกอากาศกลายเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลายๆบ้านต้องมีติดไว้ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยมลพิษ ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศสักเครื่อง เรามาทำความรู้จักพอให้เห็นภาพ จะได้มีโอกาสไปคุยกับเขารู้เรื่อง

หลัการทำงานเครื่องฟอกอากาศแบบเข้าใจง่ายๆ ดังนี้

  1. ใบพัดและมอเตอร์ดูดอากาศจากภายนอกเข้า
  2. ผ่านระบบกรองอากาศ
  3. ปล่อยอากาศดีที่ผ่านการกรองออกสู่ภายนอก
  4. เราได้อากาศดีๆ
ซึ่งเครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่นและแต่ละยี่ห้อนั้นจะมีความแตกต่างกันตรงเทคโนโลยีการฟอกอากาศหรือการกรองนี้เอง โดยระบบกรองจะประกอบไปด้วยแผ่นกรองแล้วแต่ว่าจะกี่ชั่นซึ่งจะมีตั้งแต่ 3-5 ชั้น และสิ่งที่กรองได้นั้นจะเป็นฝุ่นขนาด 10PM,2.5PM กลิ่น สารเคมี เชื้อรา หรือแบคทีเรีย ก็แล้วแต่เทคโนโลยี

วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2563

Sharp เครื่องฟอกอากาศ รุ่น FP-J30TA ขนาด 23 ตรม. รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2019




รายละเอียดสินค้า Sharp เครื่องฟอกอากาศ รุ่น FP-J30TA ขนาด 23 ตรม. รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2019

  • สำหรับห้องขนาด(ตรม) : 23
  • ระบบฟอกอากาศ : พลาสม่าคลัสเตอร์แบบเข้มข้น พ่นอนุภาคบวกและลบ
  • ตั้งเวลาปิด(ชม.) : 8
  • รับประกัน(ปี) : 1
  • น้ำหนัก(กิโลกรัม) : 4
  • ขนาดเครื่อง (ซม) : 41.1x43.1x21.1
  • อื่นๆ : แผ่นกรองฝุ่น HEPA ดักจับฝุ่นละอองต่างๆที่มีขนาดเล็ก0.3ไมครอนได้ถึง 99.97%และดักจับกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทดสอบแล้วว่าสามารถทำลายเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้ทำงาน
  • แบบION SHOWERช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่นละอองและกลิ่นไม่พึง
  • ประสงค์


เราจะอยู่กับอากาศที่เต็มไปด้วยมลพิษกันได้อย่างไร ?


เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าอากาศที่เราหายใจอยู่ไม่มีอะไรปนเปื้อน ?

หลายอย่างรอบตัวที่เรามองเห็นเรายังพอหลบเลี่ยงได้ แต่สิ่งที่มองไม่เห็นนั้นยากที่จะหลบเลี่ยง

สิ่งแวดล้อมทุกวันนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน ไม่รู้อะไรต่อมิอะไรประดังประเดเข้ามาหาเรา อย่างปัญหามลพิษในอากาศในปัจจุบันเป็นปัญหาที่เราเองต้องหันกลับมาระมัดระวังตัวให้มากขึ้น โดยเฉพาะสิ่งที่มองไม่เห็นอย่างเช่นฝุ่น PM2.5 ที่มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมของเรากว่า 20  เท่าเลยทีเดียว มันเล็กขนาดที่ว่า เมื่อเราหายใจเข้าไป มันจะมุดเข้าไปลึกระดับเส้นเลือดฝอย เข้าสู่กระแสเลือด เป็นสาเหตุนำไปสู่โรคภัยต่างๆที่น่ากลัว เช่น หอบหืด หลอดเลือดในสมอง โรคหัวใจขาดเลือด  โรคมะเร็งปอด มีผลต่อระบบสมอง อัลไซเมอร์ ซึ่งจะนำไปสู่สาเหตุของการเสียชีวิต นึกแล้วน่ากลัวจริงๆ

ทั้งนี้สาเหตุของการเกิดฝุ่น PM 2.5 นั้นเกิดจากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นการเผาในที่โล่ง , การคมนาคม (โดยฌฉพาะรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซล) อุตสาหกรรม ซึ่งกิจกรรมต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นอยู่ทุกวัน เราไม่สามารถหยุดกิจกรรมเหล่านี้ได้ ซึ่งปัจจัยที่จะทำให้ฝุ่น PM2.5 กระทบอย่างรุนแรงขึ้นขึ้นอยู่กับ

  1. แหล่งกำเนิด  ดังที่กล่าวข้างต้นว่าจะมีทั้งการเผา,การคมนาคมและโรงงานอุตสาหกรรม
  2. สภาพอากาศ หากบริเวณนั้นมีลมพัดและอากาศไม่ปิดจนเกินไป จะทำให้ฝุ่น PM2.5 ไม่สะสมในบริเวณนั้นมากเกินไป แต่สังเกตุว่าช่วงฤดูหนาวหรือมีอากาศเย็น บริเวณพื้นที่นั้นจะเหมือนกับถูกครอบกักอากาศไม่ให้ไปไหน อย่างนั้นจะผลกระทบจาก PM2.5 จะมีความรุนแรงมากขึ้น
  3. สภาพพื้นที่ หากเป็นที่โล่งและมีอากาศถ่ายเทดีก็อาจจะมีผลกระทบน้อยกว่าบริเวณที่มี พื้นที่แออัด ลมไม่ถ่ายเท จะมีการสะสมฝุ่น PM2.5 มากกว่า หรือ บริเวณไหนที่มีหุบเขาล้อมรอบและมีอากาศเย็นก็ผลกระทบจะยิ่งทวีความรุนแรงไปอีก
  4. พิ้นที่สีเขียว มีส่วนสำคัญมากๆ ต่อการลดผลกระทบฝุ่น PM2.5 เพราะพื้นที่สีเขียวจะคอยดูดซับมลพิษและเพิ่มอากาศดีๆให้กับเราอีกด้วย
หลายคนอ่านข้อความด้านบนแล้วอาจจะบอกตัวเองว่า งั้นฉันจะไม่ออกไปไหน อยู่บ้านดีกว่า ออกไปข้างนอกมีแต่ฝุ่น PM2.5 อันตรายเกินไป.....

เอาเขาจริงๆ เราเองคงทำแบบนั้นไม่ได้เพราะ ต้องออกไปทำงาน ออกไปทำธุระมากมาย เราควบคุมอากาศภายนอกไม่ได้ แต่เราจัดการตัวเองได้ฉะนั้นเราหันมาแก้ปัญหา หาวิธีการที่จะอยู่กับอากาศที่เต็มไปด้วยมลพิษกันดีกว่า

เราจะอยู่กับอากาศที่เต็มไปด้วยมลพิษ (PM2.5) ได้อย่างไร ?
  1. หน้ากากมีไว้อุ่นใจสุดๆ เมื่อจำเป็นต้องออกไปข้างนอกควรสวมใส่หน้ากาก N95 หรือแบบที่มีอย่างน้อย 3 ชั้น ช่วงนี้ผมเห็นในตลาดหลายๆยี่ห้อเคมว่ากัน PM2.5 ได้ ยังไงก็ศึกษากันดีๆครับ
  2. แอพเตือนไว้ปลอดภัยดี อย่าลืมเครื่องมือเตือนภัยติดมือถือเราจะได้ระมัดระวังได้ทันการณ์ เช่น air4thai เอาไว้รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ข้อมูลอัพเดตตลอดจากกรมควบคุมมลพิษ
  3. งดกิจกรรมกลางแจ้งหากมีการแจ้งเตือนไม่ปลอดภัย แต่หากยากออกกำลังกายลองเปลี่ยนเป็นกิจกรรมที่สามารถทำในร่มได้ ปลอดภัยกว่าจ้า
  4. เลือกอาหารเสริมความแข็งแรง ทำร่างกายให้แข็งแรงเสมอ เช่น การทำบล๊อคเคอรี่ปั่นสดทานเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงพร้อมต้านฝุ่น PM2.5
  5. .ใส่ใจผู่อ่อนแอให้มาก เช่น เด็กเล็ก คนชรา และผู้ที่เจ็บป่วยโดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจ ถ้าไม่จำเป็นช่วงฝุ่น PM2.5 เยอะๆไม่ควรพาบุคคลเหล่านี้ออกนอกบ้าน
หลายคนอาจจะมองว่า เราหลบไปอยู่ในบ้าน คือ ปลอดภัยที่สุดแล้ว แต่ช้าก่อน อยากให้ลองสำรวจรอบๆบ้านท่านเคยได้กลิ่นสิ่งต่างๆเหล่านี้หรือไม่ ? น้ำยาทาเล็บ / น้ำยาย้อมผม / เสปรย์ฉีดยุง / น้ำยาล้างห้องน้ำ / ควันบุหรี่  สารเคมีเหล่านี้อยู่รอบตัวเราอยู่ตลอดเวลา มันทำให้เรารำคาญใจ และมีผลต่อสุขภาพร่างกายเสมอ นี้ยังไม่รวมแบคทีเรียและไวรัสที่หลุดรอดเข้ามาในบ้านเราอีกมากมาย

ถึงเวลาที่เราต้องลุกขึ้นมาปกป้องตัวเองอย่างจริงๆจังเพื่อให้ปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศที่อยู่รอบตัวเราแล้ว เริ่มที่เราและบอกต่อไปยังคนที่คุณรัก